Description
|
พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 ได้กำหนดมาตรฐานการควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษ โดยเฉพาะมาตรา 55 ที่เน้นการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำสาธารณะ และมาตรา 69 ซึ่งกำหนดให้แหล่งกำเนิดมลพิษ 10 ประเภท ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยน้ำเสีย สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 (อุดรธานี) มีหน้าที่บทบาทสำคัญในการดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยทำการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับแหล่งกำเนิดมลพิษ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน และชุมชน ที่ผ่านมามีการออกคำสั่งให้แหล่งกำเนิดเหล่านี้ ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียให้เป็น
ระบบ AS นั้นมีต้นทุนสูง ซับซ้อน และต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ จึงได้นำแนวคิดการบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ปลูกพืชในตะกร้าของดร.ชัชชาย แจ?มใส คณะสาธารณสุขศาสตร? มหาวิทยาลัยขอนแก?น
มาขยายผลใช้งานกับแหล่งกำเนิดมลพิษขนาดเล็กและขนาดกลาง เนื่องจากเป็นระบบที่มีต้นทุนต่ำ ดูแลง่าย ใช้พื้นที่น้อย และมีประสิทธิภาพสูงกว่าบึงประดิษฐ์ทั่วไป สามารถบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐาน ลดสารปนเปื้อน เช่น TDS, BOD, TSS, TKN, FOG และซัลไฟด์ โดยองค์ประกอบของระบบบำบัดน้ำเสีย ประกอบด้วย บ?อเติมอากาศ 1 บ?อ ถังกรองด?วยถ?านไม? 2 ถัง และบ?อบึงประดิษฐ?ที่เป?นบ?อแคบยาว สำหรับวางตะกร?า 3 - 5 บ?อ ปลูกพืชน้ำหลากหลายชนิด เช่น ธรรมรักษา พุทธรักษาและบัวอเมซอน เป็นต้น โดยขนาดและจำนวนของหน่วยบำบัดแต่ละหน่วยจะถูกปรับให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำเสียและพื้นที่ของแต่ละแหล่งกำเนิดมลพิษ
การศึกษาในครั้งนี้มีวััตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบค่าก่อสร้างและค่าบำบัดที่ลดลงระหว่างถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูปแบบเอเอส (Activated Sludge ; AS) และระบบบึงประดิษฐ์ปลูกพืชในตะกร้า และเพื่อสร้างสมการเชิงเส้นทางคณิตศาสตร์ 3 สมการ ได้แก่ 1) ค่าก่อสร้างของถังบำบัดน้ำเสียสำเร็จรูป 3 ยี่ห้อ 2) ค่าก่อสร้างของระบบ บึงประดิษฐ์ฯ 3) ค่าบำบัดน้ำเสียของถังสำเร็จรูป 3 ยี่ห้อ และ ระบบบึงประดิษฐ์ฯ จากการศึกษา พบว่า ค่าก่อสร้างของระบบบึงประดิษฐ์ฯ ลดลงจริงเป็นไปตามวััตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยค่าเฉลี่ยส่วนต่างค่าก่อสร้างของบึงประดิษฐ์ฯ เท่ากับ 200,937 บาท คิดเป็นร้อยละ 60.54 และค่าบำบัดลดลง 5 บาทต่อลูกบาศ์กเมตร คิดเป็นร้อยละ 25 และสร้างสมการเชิงเส้นทางคณิตศาสตร์ค่าก่อสร้างและค่าบำบัดได้ 10 สมการซึ่งมีประโยชน์ในการคำนวณค่าก่อสร้างและค่าบำบัดน้ำเสียทั้งระบบถังสำเร็จรูปและระบบบึงประดิษฐ์ฯ ขนาดใด ๆ
ผลการศึกษาพบว่า ค่าก่อสร้างของระบบบึงประดิษฐ์ฯ ลดลงโดยค่าเฉลี่ยส่วนต่างค่าก่อสร้างของบึงประดิษฐ์ฯ เท่ากับ 200,937 บาท คิดเป็นร้อยละ 60.54 และค่าบำบัดลดลง 5 บาทต่อลูกบาศ์กเมตร คิดเป็นร้อยละ 25 และค่าบำบัดของระบบบำบัดน้ำเสียบึงประดิษฐ์ปลูกพืช
ในตระกร้าโดยรวม ลดลง ร้อยละ 25 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเติมอากาศลดลง เมื่อเทียบกับ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบ Activated Sludge (AS) และสาเหตุที่ระบบบึงประดิษฐ์ฯ บางขนาด
มีค่าก่อสร้าง มากกว่า เนื่องจากระบบบึงประดิษฐ์ฯ ก่อสร้างด้วยบ่อคอนกรีตเสริมเหล็กและ
มีองค์ประกอบหน่วยบำบัดขั้นต้นที่เป็นถังดักไขมัน สมการเชิงเส้นทางคณิตศาสตร์ค่าก่อสร้างและค่าบำบัด และสร้างสมการเชิงเส้นทางคณิตศาสตร์ค่าก่อสร้างและ ค่าบำบัดได้ 3 กลุ่ม จำนวน 10 สมการ ซึ่งสามารถคำนวณค่าก่อสร้างและค่าบำบัดน้ำเสียทั้งระบบถังสำเร็จรูปและระบบ
บึงประดิษฐ์ฯ ขนาดใด ๆ ข้อเสนอแนะ 1. พัฒนาจัดทำคู่มือการออกแบบ ก่อสร้างและควบคุมดูแลระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ฯ เพื่อส่งเสริมการใช้ งานระบบอย่างแพร่หลายสำหรับแหล่งกำเนิดมลพิษตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดมลพิษน้ำเสียรวมชุมชน และแหล่งกำเนิดมลพิษขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่น อาคารประเภท ข. และ ค.
ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบบบำบัดน้ำเสียแบบเอเอส (Activated Sludge ; AS) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงและยุ่งยากซับซ้อน 2. ติดตามประเมินผลการใช้งาน และประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ปลูกพืชในตะกร้า เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับพัฒนาระบบบำบัดฯ ต่อไป 3. สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 กรมควบคุมมลพิษ ควรเผยเเพร่ให้กับสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1-8 และ 10-16 รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้และขยายผลกับแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่ที่รับผิดชอบของตน 4. มหาวิทยาลัยที่สนใจควรนำไปศึกษาเพิ่มเติมและถ่ายทอดให้นักศึกษาได้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถวิจัยพัฒนาขยายผลต่อไป
|